AI ถูกนำมาใช้ในการทำงานที่ซ้ำซ้อนและมีปริมาณมาก เช่น การส่งอีเมล การจัดการโฆษณา และการตอบคำถามของลูกค้า โดย AI สามารถทำงานเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ลดภาระงานของมนุษย์ และช่วยให้ทีมงานมีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์กลยุทธ์ใหม่ๆ
ตัวอย่างใน Part Ads ที่เห็นได้ชัดเจนคือ
- Google Ads: ใช้ AI ช่วยจัดการโฆษณาแบบอัตโนมัติ ระบบ “Smart Bidding” จะปรับเปลี่ยนการเสนอราคาโฆษณาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น เวลา อุปกรณ์ สถานที่ และพฤติกรรมของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังใช้ AI ในการปรับแต่งโฆษณาและเนื้อหาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้มีโอกาสคลิกและ conversion มากขึ้น
- Facebook Ads: Facebook ใช้ AI ในการจัดการและปรับปรุงโฆษณาให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน ระบบ “Automatic Placements”หรือ “Advantage+” ของ Facebook จะเลือกตำแหน่งที่ดีที่สุดในการแสดงโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Facebook เช่น Facebook, Instagram, Audience Network และ Messenger โดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ “Dynamic Ads” ที่สามารถสร้างและปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกับความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้งานแต่ละรายได้อย่างอัตโนมัติ
และยังมีอีกหลายๆ Tool ที่ทำได้ด้วยระบบ Automation ไม่ว่าจะเป็น
- Email Marketing Automation: การส่งอีเมลตามเวลาที่กำหนดหรือตอบสนองต่อการกระทำของผู้ใช้ เช่น การส่งอีเมลต้อนรับเมื่อมีการลงทะเบียนใหม่หรือการส่งข้อเสนอส่วนลดเมื่อลูกค้าเพิ่งเข้าชมสินค้าบนเว็บไซต์
- Social Media Automation: การตั้งเวลาและการจัดการโพสต์ในโซเชียลมีเดียล่วงหน้า เพื่อให้สามารถสื่อสารได้สม่ำเสมอโดยไม่ต้องเข้าไปโพสต์ในแต่ละวันในแต่ละ Platform
การใช้ AI ในการตลาดไม่เพียงช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า และช่วยให้แบรนด์ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ในอนาคต AI จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการขับเคลื่อนการตลาดออนไลน์ และเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับทุกบริษัทที่ต้องการเติบโตและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล
