Personalized Marketing หรือการตลาดแบบส่วนบุคคลคือกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างข้อความและประสบการณ์ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลเพื่อตอบสนองความต้องการและความสนใจของลูกค้าแต่ละคน Personalized Marketing จะใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากลูกค้า เช่น พฤติกรรมการซื้อ ประวัติการเรียกดู เพื่อปรับเนื้อหา ข้อเสนอ และการสื่อสารให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
การทำ Personalized Marketing มีข้อดีหลายประการ เช่น:
- เพิ่มอัตราการตอบสนอง – ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อข้อความที่สอดคล้องและเกี่ยวข้องกับความสนใจและความต้องการของพวกเขา
- เพิ่มประสิทธิภาพการขาย – การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคลสามารถช่วยเพิ่มอัตราการขายได้
Personalization Marketing การทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลนั้น จะทำให้ร้านค้าหรือแบรนด์จดจำความชอบเฉพาะตัวของลูกค้า หรือพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้ารายบุคคล
Personalization Marketing จะมาช่วยในการปรับแต่งเนื้อหาและข้อเสนอให้ตรงกับความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละรายเพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้สามารถทำโฆษณาหรือใช้แคมเปญการตลาดที่ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย ผู้ใช้งานจะเห็นสิ่งที่ชอบในโซเชียลมีเดียของตัวเอง ทำให้พวกเขาอยู่ในโซเชียลมีเดียนั้นๆ นานมากขึ้น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ
TikTok: อัลกอริทึมเก็บข้อมูลความสนใจของเราว่าชอบดูคลิปแนวไหน แล้วปรับฟีดให้ตรงกับความชอบของเรา ทำให้ฟีดแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย
Facebook Dynamic Ads: ฟีเจอร์ Dynamic Ads ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถแสดงสินค้าที่ผู้ใช้เคยดูหรือสนใจในเว็บไซต์แอปพลิเคชันของแบรนด์ โฆษณาเหล่านี้จะปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้
Facebook Ads Custom Audience เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงจากข้อมูลที่มีอยู่ เช่น รายชื่อลูกค้า, ผู้ใช้เว็บไซต์, หรือผู้ที่มีการโต้ตอบกับเพจบน Facebook กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้จะช่วยให้โฆษณาของคุณถูกจัดส่งไปยังบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องสูง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจากแคมเปญโฆษณา
Google Ads Personalized Search Ads: Google Ads ใช้ AI ในการปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกับความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ โดยการใช้ข้อมูลจากประวัติการค้นหาและการคลิกของผู้ใช้ Google สามารถสร้างโฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความสนใจของแต่ละบุคคลตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรองเท้าวิ่ง โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับรองเท้าวิ่งและอุปกรณ์การออกกำลังกายจะปรากฏขึ้นเมื่อผู้ใช้ทำการค้นหาครั้งถัดไป
Netflix Personalized Recommendations: แม้จะไม่ใช่การจัดการโฆษณาโดยตรง แต่ Netflix ใช้ AI ในการแนะนำเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการปรับแต่งเฉพาะบุคคล ฟีเจอร์นี้ใช้ข้อมูลการดูและพฤติกรรมการรับชมของผู้ใช้เพื่อแนะนำภาพยนตร์และซีรีส์ที่ผู้ใช้อาจชื่นชอบ ซึ่งทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีขึ้นและใช้เวลามากขึ้นในแพลตฟอร์ม
การปรับแต่งเฉพาะบุคคลในการจัดการโฆษณาช่วยให้โฆษณามีความน่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการและความสนใจของผู้ใช้แต่ละราย ทำให้มีโอกาสสูงขึ้นในการดึงดูดความสนใจและเพิ่มโอกาสในการได้รับ Conversion
เช่น หากผู้ใช้ดูซีรีส์แนวสืบสวนบ่อย ๆ Netflix ก็จะแนะนำซีรีส์หรือภาพยนตร์แนวเดียวกันให้กับผู้ใช้คนนั้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่ามีเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของตนเองมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะใช้บริการต่อไปนานขึ้น
การปรับแต่งเฉพาะบุคคลแบบนี้สามารถนำมาใช้กับการจัดการโฆษณาได้เช่นกัน การนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละราย ทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับ Conversion สูงขึ้น